เหตุผลแท้จริงของการเรียน ...เพราะคนเราลืมไปแล้ว
ผมเคยคิดเหมือนกัน ว่าทำไมเราต้องมาเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เท่าที่ผมเข้าใจในตอนแรกไม่ได้แตกต่าง จากเหตุผลธรรมดาทั่วไปเลย ..........เพราะอนาคต .........
เพื่อครอบครัวที่ดี เพื่อพ่อแม่ และที่สำคัญเพื่อประเทศชาติ .... มันเป็นเหตุผลที่พอเหมาะพอดี แต่ทว่ามันยังไม่ใช่ ...... มันมีอะไรบางอย่าง ที่ผิดพลาด .... อะไร...อะไร กันนะ..... หลายครั้งที่ผมถามตัวเองบ่อยๆ แต่ก็กลับทำให้เกิดความรู้สึกยุ่งยาก ลำบากใจขึ้นมา
กระทั้งวันหนึ่ง ผมก็ได้ไปพบกับคนๆหนึ่ง เขาถามผมอย่างง่ายๆที่ใครๆ ก็ตอบได้ " เธอมีความฝันหรือเปล่า แล้วมันคืออะไร " ผมรู้ใครๆก็คงจะตอบได้ไม่ต่างกันเลย ผมจึงตอบไปว่า "อยากมีอาชีพที่ดีอยากมีถานะที่มั่งคง" ผมรู้ว่าเป็นใครก็คงตอบได้ไม่ต่างจากผมมาก แต่เขากลับพูดต่อไปอีกว่า " ถามเรื่องความฝันของเธอ" ทำเอาผมยืนงง อย่างบอกไม่ถูกเลย ผมจึงพูดว่า "นั้นแหละครับคือความฝัน" เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วก็พูดว่า " นั้นมันความต้องการของเธอต่างหาก ไม่ใช่ความฝัน ความฝันที่แท้จริงนั้นเหมือนเด็ก ที่ไร้เดียงสา มันดูจะห่างไกลแต่มันก็ ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นจริงไม่ได้ มันเหมือนสายลม อันอ่อนโยน แต่ก็ไม่เคยจะหยุดพัด มันไม่ต้องตามหา แต่มันจะเกิดขึ้นในใจ บางครังมันน้อยนิด แต่ก็สำคัญ .....................แล้วเธอจะรู้ว่ามันคืออะไร " แล้วเขาก็จาก ไป ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรมันหมายความว่าอย่างไร ...... บางทีเขาบาจ บ้าก็ได้ คนเรียน มาก ระดับ ดร.
.......คงจะบ้าแน่ ..........
แต่ผมรู้ที่บ้านะผมเองต่างหาก ผมกำลังคิด อะไรบางอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน ...ความฝันของผม....
ผมเริ่มถามตัวเอง ตอนนี้ผมทำอะไรอยู่ .....คำตอบแรก ผมกำลังศึกษา แล้วมัน.......เพื่ออะไร..? .....เหตุผลแรก เพื่อพ่อแม่ แต่ผมก็ไม่แน่ใจนัก หากผมไม่ทำให้เรื่องค้างคาใจนี้มันกระจ่าง ผมคงเป็นทุกข์แน่
ผมกลับบ้านไปถาม พ่อ แม่ ผมพยายามจะอ้อมค้อมมากที่สุดเพื่อไม่ให้ท่านจับได้ว่าผมจะถามอะไร แต่ผมก็ตีความหมายได้ สิ่งที่ท่านบอก... ไม่ใช่ชื่อเสียง .... เงินทอง ... หรือลาภยศ ...ที่จะทำให้ครอบครัวเราทัดเทียม คนอื่นๆ ..... มีหน้ามีตาในสังคม .... .......แต่สิ่งที่ท่านพูดกลับทำให้ผมอึ้งไปอีก ......
....ไม่หรอกลูก แค่ให้ลูกเป็นคนดีก็พอ เราอยู่อย่างนี้เราก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร......
หากใครเป็นเหมือนผมก็คงจะเข้าใจว่าผมรู้สึกอย่างไร สิ่งต่างๆที่ผมอ้างถึง พูดถึง หรือหมายความถึงมัน ตอนนี้ผมรู้แล้ว มัน..มัน..ไม่มีค่า มันเป็นเพียงกลลวงของชีวิต มันเหมือนเถาวัลย์ ที่เราพยายามนำมา พันตัวเราไว้ มัน......ไม่มีค่าอะไรเลย มันเป็นเพียงเหตุผล ที่ผมใช้เพื่อหลีกหนี ออกหาจจาก โลกที่ผมเคยรู้จักมา บางทีอาจเพราะเราโต ขึ้นเราเลยดูถูก ความฝันของเราเอง และพยายามกลบเกลื่อนมันด้วยสิ่งต่างๆ ที่ให้ความสุขสบาย แต่ นั่น ....... ก็ไม่ได้หมายความว่าเรา จะมีความสุขในชีวิตของเรา " กลลวงแห่งความงมงาย ที่มนุษย์สร้างขึ้น " ......................................................................... ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ผมทำอะไรอยู่ ผมกำลังดำเนินตาม ความงมงาย เหล่านั้น ผมหวังว่ามันจะให้ ชีวิตที่สุขสบายเเก่ผม มันจะให้ เงินทอง ที่ผมไม่มีทาง เอามันไปได้เลย ยามที่ผม ล่า ลับจากโลกใบนี้ไป **** คำถามหนึ่งเกิดขึ้นในใจของผม****
...............จะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่คุ้มค่า ผมไม่รู้ว่า ชีวิตนี้ จะยืนยาวหรือสั้นเพียงใด ........ ผมไม่รู้ว่า จะได้ทำอย่างที่ผมเคยคิดหรือไม่............
ตอนนั้นเอง ผมรู้แล้ว ว่า ผมยังไม่ลืมมัน..ยัง.. ยังเลย ..มันอยู่ใน ใจของผมเอง มันอยู่มานานแล้ว จะด้วยเหตุผล อะไรที่ผม ก็ไม่สามารถ อธิบายได้ ผมกลายเป็นเด็ก เด็กที่แท้จริง เด็กที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร เด็กที่กำลังจะเดินตามบางสิ่งบางอย่าง ..................บางสิ่งที่เป็นเหตุผลให้ผมเกิดมา ..................บางสิ่งที่หัวใจอันเยาว์วัยของเราเรียกร้อง " มันเมือนกับมหาสมุทร ที่กว้างใหญ่ แต่กลับสามารถเดินไปมาได้ " " มันเมือนดวงดาว ที่สว่างไสว แต่เราสามารถ เอื้อมมือไปคว้ามาได้ " " มันคือความรักที่แท้จริง ที่หลงเหลืออยู่ " " มันคือเหตุผลที่ทำให้ผม ต้องเกิดมา " ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งใดที่เป็นความต้องการของผม ผมไม่ลังเลเลยที่จะเชื่อมัน เพราะมันเป็นเสียงจากหัวใจของผมเอง ผมตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่จะลาออกจากที่ๆผมเรียนอยู่ ผมไม่อยากที่จะให้ตัวเองหยุดอยู่ที่นี้ ที่ที่เรียนต่อไป เพื่อที่ จะได้ จบมา มีงานทำ มีเงิน มีชื่อเสียงจอมปลอม มีครอบครัวที่สุขสบาย ด้วยเงินตรา ด้วยการเอาเปรียบบุคคลรอบข้าง ด้วยการเห็นแก่ตัว
ผมไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าตัวเองกำลังเรียกหาความฝัน...ที่มันจากผมไปนานแล้ว ผมไม่อยากที่จะใช้ชีวิต ตามหน้าที่ ผมไม่อยากจะใช้ชีวิตนี้อย่าง น่าละอาย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่หลายคนอยากทำ เพียงเพราะต้องการความสบาย
แต่คนเหล่านี้ก็จะรู้ในไม่ช้านี้เอง ว่าสิ่งที่เขาทำนั้น มันจะไม่มีค่าอะไรเลย ยามที่ลมหายใจ เฮือกสุดท้าย ลาจากเขาไป ตลอดกาล มันอาจ เป็นการสูญเสีย สำหรับเขา แต่สำหรับผมนั้น....ไม่ใช่เลย เพราะผมได้ลง มือทำเเล้ว ทำตามฝันของผม มันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถ พรากมันไปจากผมได้ ไม่เว้นแม้แต่ ความตาย เพราะตอนนี้ ผมเป็นคน ทำฝันแล้ว ผมมีชีวิต อยู่ อย่าง มีความ หมาย
ผมได้เลือกเรียนที่ใหม่ ที่ๆให้มากกว่า ปริญญา หรือเศษกระดาษแผ่นหนึ่งในสายตาผม ที่ๆให้ความหมาย ในชีวิตเรา
ที่ๆให้ความรู้ ที่ๆเป็นการเริ่มต้นการเดินทางของผม และ ที่ๆผมไม่เคยเสียใจที่ ได้เดินทางมา
..............................................................................
ผมขอถามคุณ ว่า"ตอนนี้ คุณมีความฝัน หรือเปล่า หรือเหลือเพียงความต้องการ "
อย่าเลยเพื่อนๆ อย่าเลย อย่าให้ชีวิตนี้ของเรามันไร้ค่า อย่าให้ชีวิตนี้ของเรา ที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่... สั้นหรือยาวเพียงไร ......... อย่าเลย อย่าให้ มันสูญเปล่าเลย
จงฟังเสียงของหัวใจของคุณ แล้วจงเชื่อมัน จงตามหาความฝันอันน้อยนิด แต่สวยงาม จงเป็นอิสระ และ จงเป็น .................คนทำฝัน ...................
จงเชื่อ เถอะ เพื่อนๆ จงเชื่อหากเราบอกว่า ไม่เคยมีอะไร เหนี่ยวรั้งเราไว้ได้ มีเพียงตัวเราเท่านั้น ----------------------------------------------------------------------------------- ***********สิ่งต่าง ล้วนเกิด ขึ้นและจบลง แต่ ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ *************
....คนทำฝัน....
|