คุณครูขอชื่นชมหนุนะลูก เก่งมากค่ะ
ไม่เป็นไรนะลูก
ชีวิต ถูกลิขิตมาแล้วให้เราต้องเป็นเช่นนั้น
แต่หนูทราบไหมลูกว่ามหาวิทยาลัยชีวิตของหนูที่มี"ความลำบาก"เป็นอธิการบดี มี"ความอดทนอดกลั้น"เป็นคณาจารย์
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สอนวิชา "การสู้ชีวิต"ให้กับหนู
กว่าหนูจะจบปริญญาตรีในชีวิตจริง หนูก็คงจะได้รับดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ไปอีกใบแล้วลูก
กายเหนื่อยก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้ใจเหนื่อยนะลูก
คุณครูเป็นคนทำงานหนักมาก มีพี่ๆเสื้อส้มก็มาก กว่าจะได้นอนก็หนักเอาการ ทั้งๆที่เป็นคนนอนน้อยไม่ได้
มีคนชอบถามว่าเหนื่อยไหม
คุณครูก็ถามว่า เหนื่อยเป็นอย่างไรเหรอ ไม่ทราบ ไม่รู้จัก
เพราะงานที่คุณครูทำ มันเป็นงานที่คุณครูรัก คุณครูก็เลยมีคววามสุข
ส่วนงานที่หนูกำลังทำ ก็เป็นงานที่มีคุณค่าเช่นกัน เพราะเป็นงานที่ทำให้ผู้มีพระคุณของเราได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น
คนเรา ถ้าทำความดี ฟ้าดีย่อมมีตา ประทานรางวัลให้โดยไม่ต้องวอนขอนะลูก
เชื่อมั่นในความดีนะคะ
แต่หนูเองคงต้องฝึกการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการพยุงลมหายใจให้เนิบช้าและนิ่มนวลตลอดเส้นลมที่เข้าและออก
หายใจให้สุดลมอย่างสม่ำเสมอ ออกให้สุดลมอย่างสม่ำเสมอ
ระหว่างหายใจ ปล่อยกายให้สบายๆ ไม่เกร็ง ไม่ฝืน ไม่หวัง
ถ้าจิตใจของหนูเป็นจิตที่แผ้วใส ลมหายใจก็จะมีคุณภาพ
ลมหายใจที่มีคุณภาพ จะเสริมธาตุในกายให้ทำงานได้สมดุลย์
แม้นอนน้อย แต่ก็อิ่มได้นะคะ
ระหว่างทำงานก็อย่าขัดแย้งด้วยการคิดน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาที่ไม่มีเวลาเท่าเพื่อน
ความ"ไร้เดียงสา" ไม่คิด ไม่เปรียบเทียบจะทำให้หนุก้าวล่วงแต่ละวันไปอย่างปริ่มสุขนะลูก
คนทำความดี และพยายาม ขยัน ไม่ท้อแท้ ในที่สุดจิตของหนูก็จะทรงพลัง
หนุจะเข้าใจชีวิต รู้ค่าของเงิน เข้าอกเข้าใจในหัวใจผู้อื่น
แม้พระพุทธเจ้ามีปราสาททิพย์วิมาน 4 ฤดูที่น่าอยู่ พระองค์ยังทรงทิ้งทรัพย์ศฤงคารเหล่านั้น เพื่อแสวงหาความทุกข์และการดับทุกข์
แล้วเรา ปุถุชนธรรมดาจะไปกลัวอะไรกับความลำบากของชีวิต
มากสุดก็แค่นอนน้อยกว่าเขา แล้วก็ขยันมากกว่าเขา
เชื่อคุณครูนะคะ
คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครได้สิ่งเหล่านี้มาง่ายๆ
อดทนไว้นะลูก
แยกความเหนื่อยกายออกไป อย่าให้มารวมกับใจทำให้หนูสูญเสียพลังไปโดยสูญเปล่า
ใจต้องไม่เหนื่อย และต้องไม่ท้อนะคะ
คุณครูขอเป็นกำลังใจให้หนูนะลูก
ขอพระบันดาลให้ความดีของหนูเป็นแรงผลักดันให้หนูสอบเข้าในคณะและมหาวิทยาลัยที่หนูใฝ่ฝันได้ดังใจปรารถนานะคะ
คนที่ลำบากกว่าเรายังมีอีกมาก สู้ๆ นะลูก