เราผู้เป็นคนที่โชคร้ายเหมือนถูกสววรค์แกล้ง ย้อนไปนะครับ ตอนผมอยู่ประถม ผมเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งเลย เวลาเค้าจัดอันดับของห้องผมจะได้อันดับที่ 20 กว่าจาก 30 คน โง่มากๆ
จนตอนพี่อยู่ ป.6 ผมอยากเข้าโรงเรียนจุฬาภรณ์มากๆ เลยอ่านหนังสือ อย่างเต็มที่ ใครผู้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคณิตศาสตร์ สูตรหาพื้นที่ ยังไม่รู้เลย หารเลขยังหารไม่เป็นเลย จะทุ่มเทมากมายได้ขณะนี้ จากที่ผมเรียนไม่เก่งมาก่อน คณิตศาสตร์ไม่กระดิก ผมปฎิญาณกับตัวเองไว้ว่าทำไมเพื่อนคนอื่นเรียนเก่งจัง ถามอะไรตอบได้หมด เราไม่รู้เรื่อง ผมจึงอยากรู้ซิว่าถ้าหากฟมอ่านหนังสือมากมายขณะนั้น ผมจะทำได้ไหม จนสุดท้าย คะแนนจากเมื่อก่อน คณิต 60-65 เกรด 2 ผมจำได้ว่า ผมได้คะแนนเทอมสุดท้ายเป็น 99 และหลังจากนั้นเองผมก็เลยรู้ว่ามนุษย์เรานั้นหากแค่พยายามก็สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่แล้ว โชคชะตาไม่ดลใจผมเลย ผมสอบไม่ติดจุฬาภรณ์ ทั้งๆที่ผมออกจากห้องสอบอย่างมั่นใจว่าติดชัวร์ชัวร์ ตอนนั้นก็อึ้ง แต่ไม่เสียใจ ไม่เครียดเพราะไม่รู้จักว่าความเครียดคืออะไร ประมาณเดือนมกราคม ผมสอบไม่ติดสาธิต ยิ่งตอนนั้น ผมเลยรู้สึกว่า สงสัยเราเพิ่งมาอ่านหนังสือตอน ป.6 มั่ง ถ้างั้นเราตั้งใจตอนม.ต้นก็แล้วกันนะ ตอน ม.1 ผมโชคดีจับฉลากได้โรงเรียนประจำจังหวัดในภาคใต้ ผมเลยได้เรียนที่นี่และผมก็เรียนอยู่ห้อง 4 โดยห้องคิงอยู่ที่ห้อง 7 ลดลงมากเรื่อยๆ ดูกลางๆใช่ไหมครับ ผมพยายามอย่างเต็มที่เรียนอย่างตั้งใจ มีสมาธิกับการอ่านหนังสือและฟังอาจารย์สอน ตอนนั้นผมอยากเข้าโรงเรียนมหิดลมากๆ เตรียมตัวตั้งแต่ม .1 อ่านหนังสือทุกวัน เวลาเกรดออกมาเป็นเทอม เกรดผมได้ 3.94 ตอนม.1 และ 4.00 ตอนม.2และ3 โดยที่ที่ 2 ของห้องนั้นได้ประมาณ 3.5 หรือ 3.6 เท่านั้น ผมค่อนข้างเด่นมากนะตอนนั้น และผมด็ยิ่งเด่นมากขึ้นตอนผมอยู่ ม.3 วันนั้นมีการคัดตัวแทนโรงเรียนไปแข่งเพชรยอดมงกุฎวิทย์ มีเด็กมาสมัคร ประมาณ 40 กว่าคน เอา 3 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กห้องคิงทั้งนั้น แต่ผมห้อง 4 ก็ตั้งใจไปสอบเหมือนกัน และแล้ว ผมได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 เพื่อนๆอึ้งมาก หลังจากนั้นเวลาผมเดินผ่านเด็กห้องคิง เค้าก็มาทักผม แต่ที่ผมภูมิใจที่สุดคือการที่ผมได้ไปแข่งทักษะกระบวนการของสมาคมวิทย์ ซึ่งต้องเป็นตัวแทนของภาคก่อนแล้วค่อยไประดับประเทศ ผมกับเพื่อนได้เป็นตัวแทนของภาค และได้ไปแข่งระดับประเทศตอนนั้นก็ยังคิดว่าใกล้สอบมหิดลแล้วอ่านเนื้อหาจบหมดแล้วนะ แต่ โจทย์ยังไม่แน่นเลย แต่ผมก็ไปแข่งให้โรงเรียนก่อน แข่งไปมาได้อันดับที่ 2 ของประเทศ ตอนนั้นกลับมาถึงโรงเรียนเหมือนเป็นคนดัง ทุกคนรู้จัก อจารย์ทุกคนมั่นมากว่าติดเตรียม หรือไม่ก็มหิดลแน่นอน ตอนประกาศผลออกมา เพื่อนๆทุกคนอึ้ง ไม่ติดเป็นไปได้หรอ เท่านั้นเองผมยิ่งเครียด แต่ก็มีเสียงของเพื่อนบอกว่าเข้าเตรียมก็ได้ เรียนเตรียมดีกว่า แต่ตอนนั้นคือว่าไม่อยากอยู่กรุงเทพ ต้องตื่นแต่เช้า กลับบ้านดึก ไม่ชอบ แต่ก็ทำใจได้แล้วก็ไปสมัครสอบ ตอนนั้น อยากเข้าที่นี่จังเลย ที่นี่น่าอยู่มากเหมือนโรงเรียนในฝันเลย ตอนนั้นเหลืออีกประมาณ 10 วันสอบ อ่านหนังสืออย่างบุกหนัก สุดยอด แต่พื้นฐานก็แน่นอยู่แล้ว ฝึกทำข้อสอบทุกปี จากหนังสือ เล่มใหญ่ที่ขายๆกัน ประมาณ 5-6 รอบ พอไปทำข้อสอบจริงๆ เฮ้อออกไม่เห็นตรงเลย แต่ คณิต วิทย์ ไทย สังคม ก็พอถูไถไปได้อย่างดี แต่พออังกฤษ มันออกอะไรของมันเนี่ย ยิ่งโง่ๆอยู่แล้วด้วย รู้สึกว่าข้อสอบมี 50 ข้อ ทำได้ ประมาณ 10 ข้อ แต่ก็ยังหวังกับวิชาอื่น สุดท้ายผลออกมาได้ที่ 1000 นิดๆ ไม่ติด เฮิร์ตมากๆ ทำไงดี อายก็อายผิดหวังก็ผิดหวัง ตอนขอดูคะแนน เสียดายมาก คณิตได้ตั้ง 70 กว่าๆ วิชาอื่นเกิน55หมด แต่อังกฤษเนี่ย โชคดีเดาถูก ตั้ง 5 ข้อ ได้ 30 คะแนน ตอนนั้นรูเลยว่าเกลียดอังกฤษมาก เพราะมันตัวเดียวเราเลยสอบไม่ติด จากนั้นจึงสอบสาธิตแล้วก็ได้ แต่แม่ไม่ให้เรียนเนื่องจากคำกรุจากบรรดาญาติๆ เลยต้องไปเรียนโรงเรียนประจำอำเภอ ซึ่งอาจารย์สมศรีเพิ่งมาติวฟรีให้พวกผม เมื่อวันที่ 25สิงหา 52 ที่ม.ราม ตอนนั้นผมได้รูจักกับอาจารย์ อาจารย์เป็นครูที่เข้าใจเด็กมากๆ หนังสือที่อาจารย์แจกตอนนั้น ผมอ่านจบหมดภายในวันนั้นเลย แต่ตอนนี้ผมอยู่ม.6 แล้ว ผมไม่มีไฟอยากทำอะไรเลยนะตอนนี้ ผมอยากเรียนหมอมาก ผมไม่มีแรงแล้วตอนนี้